หลังจาก DailySoccerThtailand
: DST ตามติดชีวิตรักของ “พิศาล ดอกไม้แก้ว” หรือ “เอ๋-กระต่ายแก้ว” ประตูมือ1ของทีมบางกอกกล๊าส
มาให้แฟนๆ ได้ชุ่มชื่นหัวใจกันแล้ว
คราวนี้เป็นเรื่องตามสัญญา เรามาพูดถึงเส้นทางเศรษฐี จาก “พี่เอ๋” มาเป็น “เสี่ยเอ๋”
ในฐานะเจ้าของแบรนด์ถุงมือ APD ซึ่ง “เอ๋”
ปลุกปั้นธุรกิจนี้มาเกือบ 3 ปีแล้ว
ที่มาของชื่อ “APD” ไม่ได้ไกลตัวเอ๋จริงๆ
เพราะย่อมาจาก “A= เอ๋ P=พิศาล และ D=
ดอกไม้แก้ว” จากจุดเริ่มต้นตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วยถุงมือคู่ละ 99 บาท เก็บสะสมประสบการณ์ศึกษาจนกลายมาเป็นถุงมือสุดแกร่ง APD
“ผมเล่นฟุตบอลตั้งแต่
อายุ 16 ปี ได้ถุงมือคู่แรก เพราะฝากเพื่อนที่กรุงเทพซื้อ
แต่ใช้ไป 2 ครั้ง ก็พัง
แต่ตอนนั้นผมยังไม่คิดว่าจะทำถุงมือเอง เพราะคิดว่ายาก คงทำลำบาก
แต่เมื่อถึงจุดที่เทคโนโลยีเปลี่ยน และมีความทันสมัยผมลองศึกษาดู และได้เพื่อนแนะนำ
จึงรู้ว่าไม่ยาก ตั้งแต่ปี 2557 จึง
เริ่มผลิตถุงมือเป็นแบรนด์ของตัวเองและขายออนไลน์ จนมาถึงปี 2559 จึงเปิดร้านขายของตัวเอง ชื่อ เอพีดี สปอร์ต ช็อป ตั้งอยู่ที่ซอยมิสทีน
ถนน รามคำแหง เขตสะพานสูง ซึ่งตอนนี้ มียอดขายปีละ 10,000
คู่” เจ้าของแบรด์ APD ย้อนความ
มือกาวไทย ใครๆ ก็ใช้ "APD"
ถุงมือ APD ใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี
ผ่านการทดลองใช้แล้ว มีผลงานเป็นที่พอใจ ผ่านกระบวนการผลิตตัดเย็บตามมาตรฐานสากล
จึงทำให้ถุงมือ APD ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผมจึงเปิด “ช็อป
เอพีดี” ย่านซอยมิสทีน มีถุงมือ วางจำหน่ายแล้ว 4 รุ่น คือ ไมร์สเตอร์, เอจีส มาส์ก ทู, อสุรา ที่แปลว่ายักษ์
ซึ่งจะสอดคล้องกับรุ่นสุดท้าย คือ รุ่นวานร สำหรับรุ่นขายดีสุด “เสี่ยเอ๋” บอกว่า
รุ่นไมร์สเตอร์ โทนสีดำ-แดง
“จริงแล้ว
รุ่นไมร์สเตอร์
ไม่ใช่ตัวหลักที่เราจะทำขาย เพราะคิดว่าจะทำเพื่อคั่นสต๊อกของรุ่นอื่น
แต่พอผลิตออกมาแล้ว เป็นที่นิยมมาก เพราะด้วยเนื้อโฟม หนานุ่ม มีตัวกันลื่น และใช้วิธีตัดเย็บที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจึงเป็นที่นิยม”
เสี่ยเอ๋ ระบุ
สวยงาม เรียบหรู คงทน ในราคาสบายๆ สไตล์ "APD"
นอกจากจะทำสินค้าระดับคุณภาพดีเยี่ยมแล้ว
ด้านการตลาด “เอ๋” ก็มีกลยุทธ์ไม่แพ้แบรนด์ชั้นนำ เขาเล่าว่า การซื้อของที่นำไปใช้งาน
ย่อมมีข้อท้วงติง ก็มีลูกค้าที่ติงอยู่บ้านแต่ไม่มากนัก อย่างผลิต 1,000 คู่
จะมีเพียง 1 รายที่คอมเพลนด์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของสีลอก
ซึ่งเราก็รับเปลี่ยนให้ใหม่ทันที
“ผมเคยโดนลูกค้าหลอกว่าถุงมือที่ส่งให้สีลอก
ทั้งที่ไม่เคยใส่ ผมให้ลูกค้าส่งของมาคืนทันที แต่เมื่อได้รับของที่ถูกคอมเพลนด์
พบว่าผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่ผมไม่ว่าอะไร
เปลี่ยนคู่ใหม่ที่เป็นสีและรุ่นเดียวกันให้ เพราะยึดความพอใจของลูกค้าสำคัญที่สุด”
ขณะที่บทบาทในสนาม ผมใช้ถุงมือAPD ทุกครั้ง และจะเปลี่ยนถุงมือคู่ใหม่ เมื่อใช้งานแล้ว
ประมาณ 5-6 เกมแข่งขัน
เพราะมองว่าลีกอาชีพเป็นเกมที่เราพลาดไม่ได้ ต้องทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด
ดังนั้นอุปกรณ์จึงต้องมีความใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจ
เด็กๆเยาวชน ก็ยังชอบ
“ฤดูกาลหนึ่ง
ผมใช้ถุงมือ ประมาณ 20 – 30 คู่ ส่วนที่ใช้แล้วก็จะให้ฟรี
สำหรับน้องๆ ที่ใจรัก แต่ไม่มีทรัพย์พอ เพื่อให้เขาได้ใช้ของดี บางทีญาติ ก็มาขอ
เราก็ให้เพราะถือเป็นการตอบแทนกัน
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่น้องคนหนึ่งไลน์มาขอถุงมือที่ผมใช้แล้ว ซึ่งผมให้ไปฟรีๆ
ตอนหลังมารู้ว่าเขาเก็บขึ้นหิ้ง อารมณ์ตอนนั้นก็ดีใจ
แต่ก็แอบเสียดายไปพร้อมกันที่น้องเค้าน่าจะได้เอาไปใช้งานจริงๆ”
กับพี่ตี๋ ที่เป็นไอดอล
กว่าจะมาถึงจุดนี้ ผมก็สู้ไม่น้อย
เรียกว่าสู้ไม่ถอย แน่นอนผมมี “ไอดอล”
ในดวงใจ ผมยกให้ “พี่ตี๋ สินทวีชัย
หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย” พี่เขาเท่ห์มาก
เก่งด้วย ผมเก็บรูปพี่เขามาติดในห้องนอน และยึดถือเป็นไอดอล
ตอนที่ผมเรียกติดทีมชาติล่าสุด ซึ่งมีพี่ตี๋อยู่ด้วย
ผมก็ขอถ่ายรูปและบอกความในใจว่า พี่คือแรงบันดาลใจของผม” ขณะที่นักเตะต่างชาตินั้น
ผมยกให้ “ปีเตอร์ เช็ก สุดยอดผู้รักษาประตูทีมอาเซนอล.
ทีมข่าว :DAILYSOCCERTHAILAND
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น