แฟนบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก คงจะรู้จักทีม “กระต่ายแก้ว” บางกอก กล๊าส (บีจี) กันเป็นอย่างดี... ผ่านมาหลายฤดูกาลทีมกระต่ายแก้วยังคงอยู่รอดปลอดภัย แถมกระโดดโลดแล่นอยู่หัวตารางคะแนนได้แบบสม่ำเสมอ ไม่ต้องอะไรมาปิดเทอมเลกแรกฤดูกาลนี้ กระต่ายน้อยยังรั้งอันดับ 4 ไว้ได้ ซึ่งนอกจากการทำประตูจะเป็นหัวใจสำคัญให้ทีประสบความสำเร็จแล้ว การมีผู้รักษาประตูเหนียวๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผลงานของทีมออกมาดีได้ไม่แพ้กัน
วันนี้ทีมข่าว “DailySoccerThailand-DST” ฉวยโอกาสจังหวะชุลมุนหน้าประตู เข้าคว้าแขนนายทวารมือ1 ของทีม “กระต่ายแก้ว” ดีกรีเจ้าของแบรนด์ถุงมือผู้รักษาประตูยี่ห้อ APD นั่นก็คือ.. “เอ๋-พิศาล ดอกไม้แก้ว” มานั่งเปิดอกคุยกันสักหน่อย แต่ครั้งนี้ขอพักเรื่องถุงมือไว้ก่อนนะครับ เพราะทีมงาน DST ตั้งใจมาจากบ้านแล้วว่า วันนี้จะขอเปิดโลกสีชมพูของ “พี่เอ๋” ให้แฟนบอลได้รู้ทุกซอกทุกมุมแบบแรงชัดจัดเต็ม!
“เอ๋-พิศาล ดอกไม้แก้ว” พื้นเพเป็นสุพรรณบุรี ด้วยฐานะไม่ร่ำรวยอะไร ทำให้ “เอ๋” ได้รู้จักกับคำว่าชีวิตต้องสู้ เขาใช้กีฬาเป็นสะพานในการเชื่อมไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เข้ามาเรียนและเติบใหญ่ในเมืองหลวง จนได้เริ่มเล่นฟุตบอลลีกอาชีพตั้งแต่ ปี 2551 ให้กับทีมบีอีซี เทโรศาสน ในตำแหน่งผู้รักษาประตู นั่นจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในวงการฟุตบอลอาชีพ
วกเข้ามาดูฉากชีวิตรัก “เอ๋” รับบทบาทเป็นหัวหน้าครอบครัว มีแม่บ้านหวานใจ คือ “บี” วราภรณ์ ดอกไม้แก้ว จุดเริ่มต้นของความรัก “บี” เล่าว่า “รู้จักพี่เอ๋ ช่วงที่ฝึกงานในสโมสรบีอีซี เทโรศาสน เมื่อ 5 ปีก่อน เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ใช่คนโรแมนติก ไม่ค่อยหวาน แต่มีสิ่งที่ประทับใจ คือ เดทแรก กับการดูคอนเสริตคาราบาว ที่โรงเบียร์ เขาพยายามหาบัตร จองโต๊ะที่ขึ้นชื่อว่าจองยากมากเพื่อพาเราไปดูสิ่งที่เราชอบ เวลาผ่านไปเขาก็ไม่ใช่คนโรแมนติก ซึ่งเข้าใจ แต่หากขอได้ ก็อยากให้เติมความหวานอีกสักนิด
“พี่เอ๋ ไม่ใช่คนโรแมนติก ไม่มีโมเม้นต์หวานๆ ให้เห็น แต่สำหรับบทบาท หัวหน้าครอบครัวถือว่าภูมิใจ เพราะหลังจากเกมแข่งขัน รวมถึงการซ้อมฟุตบอล แล้วเวลาจากนั้นคือ เวลาของครอบครัว ซึ่งตลอดที่รู้จักและคบกับพี่เอ๋ 5 ปีย่างเข้าปีที่6 เขายังเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย”
ขณะที่นายทวารมือหนึ่ง ก็ยอมรับแบบแมนๆว่า “ผมก็ยอมรับนะว่าเป็นคนขี้อาย ตั้งแต่เจอกับ บี ก็ไม่มีอะไรที่หวานเป็นพิเศษ ด้วยที่ผมเป็นคนตรงๆ คุยกันตรงๆ ซึ่งต่างกับสไตล์คนรักแบบคู่อื่นๆ ที่เทคแคร์ หวานชื่น แต่ของผมไม่มีสไตล์ที่หวานให้กัน แต่สิ่งที่เรามีให้คือ ความเข้าใจ ความรู้สึกที่สื่อถึงกันได้ แม้จะไม่ค่อยมีวันพิเศษ แต่สิ่งที่ผมมีให้คือการกระทำ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า รักบีมาก"
"คำที่อยากฝากบอก.... ตลอดที่คบมา 5 ปี ผมไม่เคยพูด คิดถึง รัก เราอยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจ เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมไม่พูดนั้น แปลงเป็นการกระกระทำที่ทำให้เห็น ซึ่งมากกว่าคำพูดว่า คิดถึง หรือคำว่ารัก แต่ผมรู้ว่า บีอยากให้ผมบอก ผมขอใช้พื้นที่ ของ DailySoccerThailand ฝากถึงบีด้วยว่า ผมรักบี และสิ่งที่ผมจะทำในทุกๆ วันคือ การกระทำที่มากกว่าคำพูดว่ารักเท่านั้น” เอ๋ บอกพร้อมยิ้มแบบเขิลๆ
ส่วนบทบาทหลังบ้านผู้สนับสนุนสามี “บี” บอกว่า จะทำหน้าที่เป็นเพื่อนคุย ให้มุมมองในด้านบวก และให้กำลังใจ เพื่อ “สามี” สามารถลุกยืนและสู้กับสิ่งที่ยากจะเอาชนะนั้นได้
“ตอนที่ พี่เอ๋ ไม่มีชื่อไปเล่นเกมกระชับมิตรกับทีมชาติอุซเบกิสถาน เพราะมีปัญหาเรื่อพาสต์ปอร์ตที่อายุใช้งานน้อยกว่า 6 เดือน ก็พยายามให้มองในมุมบวก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะฝีมือเราไม่ดี แต่เพราะปัญหาเรื่องเอกสาร คำที่ติดปากที่จะใช้พูดเพื่อให้กำลังใจเสมอๆ คือ “ทำดีที่สุดแล้ว ค่อยสู่กันใหม่นะ” น้องบี กล่าวถึงพี่เอ๋
ขณะที่ “เอ๋” ก็ยอมรับว่า “บีจะให้มุมมองด้านบวกกับผม เพราะบีเป็นคนมองโลกในแง่ดี สิ่งที่ผมคิดว่าแย่ เจอแต่เรื่องท้อแท้ แต่บีจะมองในมุมที่ดีกว่า ซึ่งผมประทับใจจุดนี้เพราะเธอคือคนที่พยุงผมและยืนอยู่ข้างผมเสมอ ทำให้ผมมีแรงที่จะสู้ต่อ”
ปัจจุบัน “ครอบครัวดอกไม้แก้ว” มีพยานรักตัวน้อยคือ “น้องเอจีส- ด.ช.พีรวิชญ์ ดอกไม้แก้ว” วัย 9 เดือน
กับบทบาท ของ “พ่อและแม่” นั้น “พิศาล” บอกว่ายกให้เป็นหน้าที่ของ “บี” เพราะบีเก่งในการเลี้ยงลูก ส่วนผมจะคอยสนับสนุน และหลังจากการซ้อม การแข่งขันให้กับสโมสรฯ สิ่งที่ต้องทำอันดับแรก คือ เล่นกับน้องเอจีส ตามพัฒนาการของเด็กวัยซน
ส่วนอนาคตของเอจีสนั้น ก็ฝันถึงการเดินตามรอยเท้าพ่อ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อโตขึ้น เขาต้องตัดสินใจเลือกวิถีของเขาเอง
วันสบายๆ สไตล์ "แม่บี-เอจีส-พ่อเอ๋
#ทีมดอกไม้แก้ว
และนี่ก็เป็นอีกมุม ที่ ฟุตบอลไม่ได้มีแต่เรื่องในสนาม (แข่ง) เพราะยังมีบทบาทของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุน "นักบอล" ให้ก้าวสู่จุดสูงสุดของการทำผลงาน
ทีมDailySoccerThailand จะติดตามและนำมารายงานเพื่อแฟนบอลชาวไทย โปรดเกาะติด! พวกเรา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น